ประเภท: แอ๊กชั่น / สยองขวัญ / สงคราม
ความยาว: 83 นาที
ผู้อำนวยการสร้าง: เฟร็ด เบอร์เกอร์, ไบอัน คาวานาฟ-โจนส์, เคลลี แมคคอร์มิก
ผู้กำกับ: โรแซน เหลียง
เขียนบท: แม็กซ์ แลนดิส, โรแซน เหลียง
นักแสดง: โคลอี้ เกรซ มอเรตซ์, นิค โรบินสัน, บิวลาห์ คัวเล, เทย์เลอร์ จอห์น สมิธ
Synopsis:
นักแสดงสาวฝีมือดีอย่าง โคลอี้ เกรซ มอเรตซ์ จาก Kick-Ass รับบทเป็น มอร์ด การ์เรตต์ ช่างเครื่องและนักบินที่ต้องโดยสารเครื่องบินทิ้งระเบิดเพื่อนำพัสดุไปส่งยังที่หมาย โดยบนเครื่องบินลำดังกล่าวเต็มไปด้วยผู้ชายที่ชอบพูดจาดูถูกนักบินหญิงอย่างเธอ แต่แล้วเหตุการณ์กลับพลิกผัน เมื่อพวกเขาทั้งหมดต้องเผชิญหน้ากับอสูรกายลึกลับที่โผล่มาโจมตีเครื่องบิน ซึ่งนี่คือโอกาสที่การ์เรตต์จะพิสูจน์ให้เหล่าผู้ชายอกสามศอกทั้งหลายเห็นว่า เธอก็แกร่งไม่แพ้ใคร และพร้อมประจัญบานกับอสูร เพื่อกระหน่ำมันให้รู้จักตาย!
เกร็ดน่ารู้
– Shadow in the Cloud คือผลงานแนวแอ๊กชั่นสุดมันเรื่องล่าสุด จากผู้สร้าง Deadpool 2, Atomic Blonde และ Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw
– บทของหนังถูกเขียนขึ้นโดยมือเขียนบทดาวรุ่งฝีมือดีที่สุดคนหนึ่งของฮอลลีวูดอย่าง แม็กซ์ แลนดิส เจ้าของผลงานอย่าง Chronicle, American Ultra และ Bright โดยเขาเขียนบท Shadow in the Cloud ร่วมกับ โรแซน เหลียง ผู้กำกับของหนัง
– ผู้กำกับ โรแซน เหลียง คือคนทำหนังผู้หญิงที่แจ้งเกิดและเป็นที่จับตาของออลลีวูดจากการทำหนังสั้น โดยเฉพาะเรื่อง Do No Harm ซึ่งได้เข้าชิงรางวัลสาขา Short Film Grand Jury Prize จากเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ และสาขา SXSW Grand Jury Award จากเทศกาลภาพยนตร์ SXSW เมื่อปี 2017
– นอกจากนี้ เหลียงยังพา Shadow in the Cloud ซึ่งเป็นหนังยาวเรื่องที่สองในชีวิตของเธอ ไปคว้ารางวัล Grolsch People’s Choice Award สนั่นเวทีเทศกาลภาพยนตร์ Toronto International Film Festival มาแล้ว
– Shadow in the Cloud กวาดคำชมจากนักวิจารณ์ไปไม่น้อย เพราะนอกจากหนังจะได้รับคำชมในแง่ดูสนุก จัดเต็มความบันเทิงแล้ว ยังสอดแทกประเด็นเฟมินิสต์ไว้ได้อย่างน่าสนใจ การันตีคะแนน 78% จากเว็บ Rotten Tomatoes และ 66 Metascore จากเว็บ Metacritic
– ตัวละคร มอร์ด การ์เรตต์ ที่รับบทโดย โคลอี้ เกรซ มอเรตซ์ นั้นมีอยู่จริง แต่เธอไม่ใช่นักบินในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หากแต่เป็นชื่อของนักแสดง, ผู้กำกับ และโปรดิวเซอร์หญิง ซึ่งแม็กซ์ แลนดิสหยิบมาใช้ตั้งชื่อตัวละครนำของหนัง เพราะเขารู้สึกว่าชื่อกับสกุลนี้มันฟังดูย้อนยุคดี
– โคลอี้ เกรซ มอเรตซ์ กลับมาร่วมแสดงกับนักแสดงหนุ่ม นิค โรบินสัน จาก Jurassic World เป็นครั้งที่สอง หลังทั้งคู่เคยร่วมงานร่วมจอกันมาแล้วในหนังเรื่อง The 5th Wave
เกี่ยวกับภาพยนตร์
บทย่อ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 กัปตัน Maude Garrett (CHLOË GRACE MORETZ) เข้าร่วมกับลูกเรือชายล้วนประจำเครื่องบินทิ้งระเบิดB-17พร้อมพัสดุลับสุดยอด เมื่อมีผู้หญิงอยู่ในเที่ยวบิน เหล่าลูกเรือทหารชายจะทดสอบการเคลื่อนไหวของเธอโดยที่เธอไม่ทันระวังแทบทุกครั้งแต่ความเฉลียวฉลาดของเธอเอาชนะพวกเขาได้เสมอ แต่เหตุการณ์แปลกๆและปมเบื้องหลังของเธอกระตุ้นเร้าให้เกิดความหวาดระแวงต่อภารกิจที่แท้จริงของเธอ ทว่า….ลูกเรือสาวผู้นี้มีอะไรที่ต้องกลัวมากกว่านั้น บางอย่างน่ากลัวที่ซุ่มซ่อนในเงามืดกำลังฉีกสะบั้นที่ใจกลางเครื่อง ในระหว่างการซุ่มโจมตีทางอากาศที่กำลังจะเกิดขึ้นประกอบกับความชั่วร้ายที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน มอร์ดต้องก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเองเพื่อช่วยชีวิตลูกเรือผู้เคราะห์ร้ายและปกป้องพัสดุลึกลับด้วยชีวิต
คำแถลงจากผู้กำกับ
ผู้สร้างภาพยนตร์ที่ฉันยกย่องคือคนที่ยื่นมือออกมา สบตาฉัน แล้วพูดว่า “ฉันอยากจะพาคุณออกไปสำรวจเส้นทางที่ไม่คาดคิด ที่นั่นอาจจะแปลกๆ คุณอาจรู้สึกว่ากำลังจะหกล้มแต่ไม่ต้องกังวลนะ ฉันจับคุณไว้แล้ว” ความมั่นใจ แรงบันดาลใจ ความคาดเดาไม่ได้คือความเคลิบเคลิ้มชนิดหนึ่งของฉัน เมื่อรวมสิ่งนั้นเข้ากับจิตวิญญาณ ความหมาย ความเชื่อมโยง นั่นคือฉันในบ่อน้ำตาแห่งความสุข ฉันสร้างSHADOW IN THE CLOUDเพราะฉันต้องการค้นหาจุดที่น่าสนใจระหว่างความสนุก จิตใจ และความน่าตื่นตาตื่นใจ
การเพิ่มขีดความสามารถมักถูกแสดงให้เห็นผ่านทางหน้าจอว่าเป็นการแสวงหาลักษณะที่สูงส่งที่สุดของตัวเรา นั่นคือ สติปัญญา เกียรติยศ ศีลธรรม สำหรับเจ้าหน้าที่การบิน ‘มอร์ด การ์เร็ต’ การเพิ่มขีดความสามารถเกิดขึ้นได้จากการสงบปากสงบคำ การพูดอย่างรอบคอบ และการตัดสินใจที่ค่อนข้างแย่ในบางครั้ง การ์เร็ตต์ติดปีกมันขึ้นไปอีกด้วยระดับความสำเร็จที่แตกต่างและฉันรักเธอตรงนี้ ความแข็งแกร่งของเธอไม่ได้สมบูรณ์แบบซึ่งฉันสามารถเชื่อมโยงได้ เราจะได้รับความเคารพและมีเกียรติได้อย่างไรหากถูกบังคับให้อยู่ในที่ที่ไม่ยอมให้เราได้รับมันเลย? เราต้องดัดแปลงปรับเปลี่ยน
ฉันคงไม่อาจหาผู้สมรู้ร่วมคิดไปกับฉันที่ดีไปกว่าChloë Grace Moretz ได้ ด้วยผลงานในภาพยนตร์กว่า60เรื่องตั้งแต่อายุ6ขวบ โคลอี้ใช้ทักษะความแม่นยำที่เหนือธรรมชาติของเธอเรียนรู้ท่าทางการต่อสู้ที่ซับซ้อนในเวลาไม่กี่นาที เธอแสดงบทสนทนาความยาว12หน้าในเทคเดียว ที่สำคัญที่สุดคือเธอเป็นนักเล่าเรื่องที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก เธอซักถามถึงแรงจูงใจของกัปตันมอร์ด การ์เร็ตต์ด้วยประเด็นทางนิติวิทยาศาสตร์ ในฐานะผู้กำกับแล้ว มันเป็นความฝันที่จะได้ร่วมงานกับนักแสดงที่มีสัญชาตญาณแห่งการสร้างสรรค์และได้รับการฝึกฝนมาอย่างละเอียดช่ำชอง
การสร้างภาพเครื่องบินทิ้งระเบิดสงครามโลกครั้งที่สองในระหว่างการบินเป็นความท้าทายอย่างยิ่งยวดทางเทคนิคภาพพิเศษทั้งVFXและSPFX แม้ว่านี่จะเป็นภาพยนตร์ประเภทที่ไม่ได้มีความถูกต้องทางประวัติศาสตร์100%แต่เราก็ยังต้องการยกย่องตำนานของเครื่องบินทิ้งระเบิดB-17 ทีมสเปเชียลเอฟเฟคได้ออกแบบตัวควบคุมไฮดรอลิกให้โคลอี้สามารถเคลื่อนไหวตัวเองได้ ลำตัวของเครื่องบินถูกสร้างขึ้นแบบท้องเรือเพื่อให้มันสามารถโยกเขย่าได้ทั้งลำ ห้องนักบินวางอยู่บนแท่นแบบหมุนได้360องศาอย่างชาญฉลาด ทีมงานเทคนิคพิเศษของเราต้องตามทัน‘กรง’ที่หมุนได้รอบทิศทาง3มิติและเพิ่มมุมมองนอกหน้าต่างตอนที่ดวงอาทิตย์ขึ้นตามท้องเรื่อง รายการการถ่ายทำช็อตเทคนิคพิเศษดูเหมือนแผนภูมิทางวิทยาศาสตร์เต็มไปด้วยตัวเลขยุบยิบที่มีคำอธิบายประกอบเกี่ยวกับมุม การหมุนมุมเอียง ระดับความสูง และทิศทางต่างๆนอกหน้าต่าง ตอนที่ฉันเรียนที่โรงเรียนภาพยนตร์ พ่อแม่ของฉันยืนยันว่าฉันยังต้องเรียนปริญญาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ด้วย”เผื่อว่า”มันไม่เวิร์ค ฉันว่าฉันคงต้องขอบคุณพ่อและแม่ด้วย
ส่วนผสมของ SHADOW IN THE CLOUD ได้รับการประสานเข้ากับเพลงประกอบและการออกแบบเสียงที่โดดเด่น ฉันรู้ตั้งแต่แรกว่าฉันต้องการดนตรีซินธ์ยุค80ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกลไกของดนตรีแนวแม่มด-กบฏ-พังก์ที่มีชีวิตชีวา แต่ทีมของเราก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วนโทนที่บีบคั้นพร้อมระดับเสียงที่เหมาะสมผนวกกับจังหวะจะโคนที่ถูกต้องในสมดุลที่เหมาะเจาะ ฉันไม่สามารถตื่นเต้นกับผลลัพธ์ได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว
SHADOW IN THE CLOUDเป็นเรื่องของความแข็งแกร่งที่น่าทึ่งในตัวเราทุกคนและตัวกระตุ้นภายในของเราที่จะปลดปล่อยมันออกมา ในด้านศีลธรรม แนวคิด และทางอารมณ์ SHADOW IN THE CLOUDเป็นเรื่องราวที่ฉันมีความโชคดีที่จะได้บอกเล่าเรื่องราวออกมาจากใจ ฉันหวังว่าผู้ชมจะไว้ใจฉันให้จูงมือพวกเขาและนำพวกเขาไปอย่างมีความสุขด้วยใจจริง ผ่านทางสิ่งที่คาดไม่ถึง
เกี่ยวกับนักแสดง
Chloë Grace Moretz (รับบทMaude Garrett)
โคลอี้ เกรซ โมเรทซ์ นักแสดงสาวผู้มีพรสวรรค์และมีความสามารถอันหลากหลาย ได้สร้างผลงานที่น่าประทับใจในผลงานประเภทต่างๆทั้งภาพยนตร์อิสระและภาพยนตร์สตูดิโอ
งานชิ้นต่อไปของเธอกำลังจะแสดงในภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันของวอร์เนอร์บราเธอร์ส เรื่องTOM AND JERRY ผลงานดัดแปลงจากการ์ตูนคลาสสิกของHanna-Barbera มีกำหนดฉายวันที่ 5 มีนาคม 2021
ล่าสุดเธอได้พากย์เสียงตัวละครขึ้นชื่อ”Wednesday Addams”ในTHE ADDAMS FAMILYเวอร์ชันแอนิเมชันของMGM ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดตัวเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2019และมีไฟเขียวให้สร้างภาคต่อหลังจากเปิดตัวไม่นาน ภาคต่อมีกำหนดฉายในวันที่ 22 ตุลาคม 2021 ในเดือนมีนาคม 2019 โคลอี้ได้แสดงในเรื่องGRETAของFocus Features ประกบIsabelle HuppertและกำกับโดยNeil Jordan
ก่อนหน้านี้เธอได้ร่วมแสดงในTHE MISEDUCATION OF CAMERON POST ซึ่งเปิดให้วิจารณ์และได้รับรางวัลGrand Jury Prizeในเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ปี2018 ต่อมาในปีนั้นเธอได้แสดงในเรื่องSUSPIRIAของLuca Guadagninoซึ่งฉายรอบปฐมทัศน์ในเทศกาลภาพยนตร์เวนิสปี 2018 และได้รับรางวัล Robert Altman AwardในงานFilm Independent Spirit Awards 2019
ในปี2010 โคลอี้ได้ปรากฏตัวในบทบาทแหวกแนวในบท‘Hit-Girl’ในKICK-ASS คัลท์คลาสสิกของMatthew Vaughn ต่อจากนั้นเธอได้แสดงในภาพยนตร์เรื่องLET ME INของMatt Reevesซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัลTop 10 Performances of the YearอันทรงเกียรติของTIME MagazineรวมถึงBest PerformancesของNew York Timesประจำปี2010
เครดิตผลงานภาพยนตร์อื่นๆได้แก่HUGO ที่ได้รับรางวัลออสการ์ของMartin Scorsese, IF I STAY, DARK SHADOWS, CARRIE, THE WAVE 5TH SUMMER 500 DAYS EQUALIZER และ BOLT
Nick Robinson (รับบท Stu Beckell)
นิค โรบินสัน เป็นนักแสดงที่กำลังเติบโตก้วหน้าในฐานะนักแสดงนำ
เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2019 โรบินสันรับบท“Jan” ในละครย้อนยุคของA24เรื่องNative Sonที่กำกับโดยRashid Johnsonที่สร้างขึ้นจากนวนิยายชื่อเดียวกันของRichard Wright โดยเป็นเรื่องราวการก้าวผ่านวัยของชายหนุ่มชาวแอฟริกัน-อเมริกันทางตอนใต้ของชิคาโกในช่วงทศวรรษที่1930 แสดงประกบAshton Sanders, Margaret QualleyและKiKi Layne ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายรอบปฐมทัศน์ในเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ปี2019
นิคจะเริ่มการถ่ายทำละครแนวอาชญากรรมเรื่อง“Echo Boomers”ประกบMichael Shannon, Britt RobertsonและAlex Pettyfer ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นจากเรื่องจริงโดยมีกลุ่มนักเรียนจบใหม่5คนซึ่งมีแนวคิดว่า วิธีที่ดีที่สุดในการเอาคืนเศรษฐกิจที่ไม่เป็นธรรมคือการขโมยจากคนรวยมาเป็นของตน ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการเปิดตัวในฐานะผู้กำกับครั้งแรกของSeth Savoyซึ่งเป็นผู้เขียนบทด้วย
นิคจะร่วมแสดงในภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนิยายสุดโปรดของFrancesca Lia Blockในยุค1980เรื่องWeetzie Bat ที่ผลิตและกำกับโดยJustin Kelly ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดยAnya Taylor-JoyและSasha Lane โดยมีเรื่องราวมุ่งเน้นไปที่’Weetzie’(อันยา เทย์เลอร์-จอย)และเพื่อนสนิทของเธอที่พยายามค้นหาความรักและการมีความสุขตลอดไป แต่ความสุขของพวกเขากลับถูกคุกคามและวีทซี่ต้องเผชิญหน้ากับความมืดมิดในชีวิตเพื่อค้นหาความสุขอีกครั้ง
เมื่อเร็วๆนี้ นิคได้เสร็จสิ้นการถ่ายทำภาพยนตร์ระทึกขวัญเรื่อง“Strange But True”ของLionsgateที่กำกับโดยRowan Athaleและอำนวยการสร้างโดยFred Berger, Brian Kavanaugh-JonesและChristina Piovesan โดยแสดงประกบMargaret QualleyและAmy Ryanเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่ห้าปีหลังการเสียชีวิตอย่างน่าเศร้าของแฟนหนุ่ม ได้ไปเคาะประตูบ้านของครอบครัวของแฟนที่จากไปเพื่อบอกว่าเธอตั้งท้องกับเขา
เมื่อ16 มีนาคม 2018 นิครับบทนำในภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้วัยรุ่นยุคศตวรรษที่20ของFOXเรื่องLove, Simonซึ่งกำกับโดยผู้กำกับGreg Berlantiจากนวนิยายสำหรับผู้ใหญ่ของBecky Albertalliเรื่องSimon vs. The Homo Sapiens Agenda ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวัยรุ่นเกย์’Simon Spiers'(นิค)ที่เปิดเผยตัวตนกับครอบครัวและเพื่อนร่วมชั้นหลังจากที่เขาถูกแบล็กเมล์โดยตัวตลกในชั้นเรียน ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังนำแสดงโดยJennifer Garner, Josh Duhamel, Tony HaleและKatherine Langford
ในเดือนเมษายนปี2018 นิคได้รับบทนำในภาพยนตร์ก้าวผ่านวัยเรื่อง“Krystal”ที่แสดงประชันRosario Dawson กำกับการแสดงโดยWilliam H.ผลิตโดยDan KestonและRachel Winter ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์โดยค่ายPaladin
ในเดือนพฤษภาคม 2017 เขาได้แสดงในละครโรแมนติกดราม่าของวอร์เนอร์บราเธอร์สและMGMเรื่องEverything, EverythingประกบAmandla Sternberg กำกับโดยStella Meghie ภาพยนตร์เรื่องนี้มุ่งเน้นไปที่’แมดดี้'(อแมนด้า) เด็กผู้หญิงที่ใช้ชีวิตในที่กำบังในบ้านของเธอเองเนื่องจากภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องและปฏิกิริยาการแพ้อย่างรุนแรงที่อาจถึงแก่ชีวิต ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อแมดดี้ตกหลุมรัก’ออลลี่’(นิค)เด็กชายข้างบ้าน ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากหนังสือขายดีในชื่อเดียวกัน
ในเดือนมกราคม 2016 นิคแสดงเป็น“Ben Parish”ในภาพยนตร์ไซไฟสำหรับผู้ใหญ่ของSonyเรื่อง“The 5th Wave”ประกบChloë Grace Moretz, Alex RoeและLiev Schreiber ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนวนิยายขายดีของRick YanceyในNew York Times เรื่องราวของโลกหลังหายนะที่มนุษย์ต้องทนทุกข์ทรมานจากการโจมตีที่ร้ายแรงถึง4ระลอก ผู้ที่ยังรอดชีวิตต้องแข่งกับเวลาของก่อนที่คลื่นลูกที่5จะมาถึงที่กำกับโดยJ Blakeson ในเดือนพฤษภาคมปีเดียวกันนั้น นิคได้แสดงบทนำในเรื่อง“Being Charlie”ของRob Reinerและร่วมเขียนบทโดยNick Reiner ที่บอกเล่าเรื่องราวของชาร์ลี เด็กหนุ่มอายุ18ปีในครอบครัวร่ำรวยที่มีปัญหาอย่างหนักเรื่องยาเสพติดกับพ่อของเขาซึ่งเป็นนักแสดงชื่อดังที่กำลังลงสมัครเป็นผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย พ่อนำชาร์ลีไปอยู่ในสถานบำบัดเพื่อซ่อนเขาจากสายตาของสาธารณชน ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายรอบปฐมทัศน์ที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโตปี2015และนำแสดงโดยCommonและ Morgan Saylor
ในเดือนมิถุนายน 2015 นิคได้แสดงในภาคที่4 ของJurassic Park “Jurassic World”โดยรับบทเป็น“แซค” หลานชายของตัวละครที่แสดงโดยBryce Dallas Howardที่มาเยี่ยมชมสวนสนุกไดโนเสาร์ในปัจจุบัน ภายหลัง22ปีจากเหตุการณ์ใน“Jurassic Park” กำกับโดยColin Trevorrowและร่วมนำแสดงโดยChris Pratt และ Judy Greer ภาพยนตร์ยูนิเวอร์แซลเรื่องนีัทำรายได้ทั่วโลก1.67พันล้านเหรียญ ทำให้เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับสี่ของปีที่ผ่านมา
นิคโดดเด่นในเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ปี2013โดยได้รับความสนใจจากบทบาท“โจทอย”ในเรื่อง“The Kings of Summer”ของJordan Vogt-Roberts ภาพยนตร์แนวดาร์กคอมเมดี้ที่เกี่ยวกับตัวละครของนิคและเพื่อนสนิททั้งสองของเขาที่ตัดสินใจสร้างบ้านให้ตัวเองในป่าและหลบหนีครอบครัวที่เอาแต่ใจ The Wall Street Journalให้Nickเป็นหนึ่งใน“ห้าผู้คนโดดเด่นจากเทศกาลปีนี้ที่เราจะได้ยินอีกมากในไม่อีกกี่เดือนข้างหน้า” ในขณะที่The Hollywood Reporterคัดเอาการแสดงของนิคในภาพยนตร์ก้าวผ่านวัยเรื่องนีัว่า“ดีเยี่ยมอย่างยิ่ง ที่มอบจิตใจที่อ่อนโยนให้แก่ในภาพยนตร์” ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายรอบปฐมทัศน์เพื่อบทวิจารณ์และเผยแพร่โดยCBS Filmsเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2013.
นิคยังเป็นแขกรับเชิญในดราม่าของHBOเรื่อง Boardwalk Empireที่โด่งดัง การแสดงที่ขโมยซีนของเขาสร้างความประทับใจให้กับนักวิจารณ์และผู้ชมซึ่งทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักแสดงหนุ่มที่มีแนวโน้มก้าวหน้ามากที่สุดของฮอลลีวูดในปี2010 โรบินสันแสดงฝีมือในซีรีส์ครั้งแรกโดยเป็นตัวละครประจำของซีรีส์ABC Familyเรื่องMelissa and Joeyในบท“ไรเดอร์”ที่เขาได้ปรากฏตัวตลอดในสามซีซั่นที่ผ่านมา
นิคเป็นชาวเมืองซีแอตเทิล เขาเริ่มมีความสนใจในภาพยนตร์คลาสสิกและละครเวทีตั้งแต่อายุยังน้อย หลังจากได้รับคำชมจากผลงานการแสดงของเขาในผลงานการแสดงในซีแอตเทิลหลายเรื่องเช่น“To Kill a Mocking Bird” “Mame” “A Thousand Clowns”และ“Lost in Yonkers” นิคย้ายครอบครัวไปลอสแองเจลิสเพื่อสานต่ออาชีพนักแสดง ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่ที่ลอสแองเจลิส
Beulah Koale (รับบทAnton Williams)
บิวลา โคาเล่ เปิดตัวในฐานะนักแสดงนำในภาพยนตร์ฮอลลีวูดจากเรื่องTHANK YOU FOR YOUR SERVICEของUniversal / DreamWorksในเดือนตุลาคม2017ที่กำกับโดยJason Hal(American Sniper)แสดงประกบMiles Teller โดยเป็นหนังสงครามเกี่ยวกับกลุ่มทหารสหรัฐที่กลับมาจากอิรักที่พยายามดิ้นรนในการพยายามกลับเข้าสู่ชีวิตครอบครัวในฐานะพลเรือนในขณะที่ความทรงจำของสงครามยังคงตามหลอนพวกเขาอยู่ไปอีกนานแม้จะละจากสนามรบไปแล้ว บิวลารับบทเป็น”โซโล”ที่อิงจากTausolo “Solo” Aieti ทหารตัวจริงผู้ช่วยชีวิตสหายสองคนในอิรักแต่ก็ต้องพยายามดิ้นรนรับมือกับการเสียชีวิตของหนึ่งในสามที่เสียชีวิตไปในการต่อสู้
ปัจจุบันบิวลาแสดงในซีซันที่10ของซีรี่ฮิตของCBSเรื่อง“Hawaii Five-0”ประกบAlex O’Loughlinโดยรับบทเป็น”Junior Reigns” อดีตนาวีซีลที่เพิ่งกลับจากการรับใช้ชาติโดยหวังว่าจะนำทักษะของเขากลับมาใช้ใหม่ในฐานะสมาชิกทีมFive-0 ตัวละครของเขาเปิดตัวครั้งแรกในซีซั่น8ปี2017
ต่อไปเราจะได้เห็นเขาในภาพยนตร์แอ็คชั่นสยองขวัญเรื่อง“Shadow in the Cloud”ซึ่งฉายรอบปฐมทัศน์ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโตปี2020 รวมถึงภาพยนตร์ตลกของTaika Waititi เรื่องNext Goal Winsซึ่งสร้างจากสารคดีชื่อเดียวกันปี2014
เมื่อไม่นานมานี้เขาได้ถ่ายทำภาพยนตร์อิสระเรื่องNI’IHAUโดยGabriel Robertsonผู้เขียนEastEnders ซึ่งเขารับบทเป็นHaku Keli’i Ni’ihau ภาพยนตร์เรื่องนีัสร้างจากเรื่องจริงในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อ’ชิเกโนริ นิชิกาอิจิ’ นักบินของกองทัพญี่ปุ่นประสบอุบัติเหตุตกลงบนเกาะNi’ihauในหมู่เกาะฮาวาย เขายังแสดงในภาพยนตร์สั้นเรื่องMANUREWAซึ่งได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมลเบิร์นและเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน
บิวลา โคอาเล่ เกิดและเติบโตในโอ๊คแลนด์ประเทศนิวซีแลนด์โดยมีเชื้อสายซามัว เขาแสดงละครของคริสตจักรอยู่เป็นประจำก่อนที่จะมาร่วมงานกับMassive Company กลุ่มโรงละครร่วมสมัยระดับมืออาชีพโดยเขาแสดงในผลงานอันโด่งดังของHavoc in the GardenและThe Brave ก่อนที่จะมีบทบาทในภาพยนตร์สตูดิโอเรื่องแรก เขามีผลงานในนิวซีแลนด์ในONE THOUSAND ROPESของTusi Tamaseseที่ได้รับการวิจารณ์อย่างดี และได้ปรากฏตัวในซีรีส์ทางโทรทัศน์เรื่องShortland Streetและ“Harry”
ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่ในฮาวาย
Taylor John Smith (รับบทWalter Quaid)
เทย์เลอร์ จอห์น สมิธ กำลังพิสูจน์ตัวเองอย่างรวดเร็วว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงมากความสามารถที่น่าตื่นเต้นที่สุดในฮอลลีวูด
ล่าสุดเขาได้แสดงในละครสงครามสุดโหดเรื่องTHE OUTPOSTประกบ Caleb Landry Jones, Orlando Bloom และ Scott Eastwood(อิงจากหนังสือของJake Tapperแห่งCNN) เขายังแสดงเป็นJohn KeeneประกบAmy Adamในซีรีส์ของHBOเรื่องSharp Objectsที่กำกับโดยJean-Marc Valleeและสร้างจากนวนิยายขายดีของGillian Flynn การแสดงของเขาทำให้เขาติดอันดับ10นักแสดงที่น่าจับตามองโดยนิตยสารวาไรตี้
ผลงานก่อนหน้านี้ของเขาได้แก่ ดราม่าเรื่องWOLVESประกบMichael ShannonและCarla Gugino ภาพยนตร์ยอดฮิตของNetflixเรื่องYOU GET MEร่วมกับBella Thorne และ”American Crime”ซีซัน2ของABC ตอนนี้เขากำลังถ่ายทำประกบLiam Neesonในภาพยนตร์แอ็คชั่นเรื่อง BLACKLIGHT
Callan Mulvey (รับบทJohn Reeves)
คัลลัน มุลวีย์ เป็นนักแสดงชาวนิวซีแลนด์เชื้อสายสก็อตและเมารี เขาได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในออสเตรเลียจากผลงานภาพยนตร์และโทรทัศน์ เขาเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีจากบทนำในBIKE WARS: BROTHERS IN ARMS, RUSH, UNDERBELLY และTHE TURNINGของRobert Connollyที่ได้รับคำชื่นชมอย่างมาก ถัดจากนี้เราสามารถเห็นคัลลันได้ในSHADOW IN THE CLOUDร่วมกับChloe Grace Moretz และTHE LUMINARIESของBBCร่วมกับEva Green
Benedict Wall (รับบทTommy Dorn)
เบนแสดงประกบChloë Grace Moretzในภาพยนตร์เรื่องSHADOW INTHE CLOUDซึ่งมีกำหนดจะจัดฉายรอบปฐมทัศน์แบบ”เสมือนจริง”ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโตในเดือนกันยายน และยังสามารถเห็นเขาได้ในซีรีส์ออสเตรเลียOPERATION BUFFALOและภาพยนตร์อิสระเรื่องTHE FLOOD
Byron Coll (รับบทTerrence Taggart)
ไบรอน โคลเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีผลงานมากที่สุดคนหนึ่งของนิวซีแลนด์ โดยทำงานทั้งบนเวทีและหน้าจอมาตั้งแต่จบการศึกษาจากToi Whakaari:โรงเรียนการละครของนิวซีแลนด์เมื่อปี2007 ล่าสุดเขาเสร็จสิ้นการถ่ายทำร่วมกับChloë Grace Moretzในภาพยนตร์สารคดีแอ็คชั่นสยองขวัญสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เรื่องShadow in the Cloud หลังจากจบการถ่ายทำมินิซีรีส์ที่เป็นที่รอคอยเรื่องThe LuminariesของBBC
ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆของเขาได้แก่ภาพยนตร์เรื่องShoppingที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลGrand Jury Prizeจากเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ และJack the Giant Slayerที่กำกับโดยBryan Singer เขายังมีบทบาทสำคัญในละครประวัติศาสตร์ของนิวซีแลนด์เรื่องHome by Christmas, TangiwaiและBombshell
ไบรอนเป็นนักแสดงนำในภาพยนตร์สั้นเรื่องDiveที่ได้รับการรับรองรางวัลออสการ์ประจำปี2016และได้รับรางวัลภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยมของนิวซีแลนด์ในเทศกาลภาพยนตร์Show Me Shorts Film Festivalปี2014 และเขาจะปรากฏในภาพยนตร์เรื่องJuniperของผู้กำกับMatthew Savilleที่กำลังอยู่ในระหว่างการผลิต
ผลงานทางโทรทัศน์ของไบรอนได้แก่ ละครโทรทัศน์แนวตลก/สยองขวัญเรื่องWellington Paranormalสร้างโดยTaika WaititiและJermaine Clement, Power Rangers และTop of the LakeของJane Campionทั้งสองซีซั่น บทบาทเพนกวินในดราม่าลูกโลกทองคำถูกเขียนขึ้นสำหรับเขาโดยเฉพาะหลังจากที่เจนได้เห็นการแสดงของเขาในบทเพนกวินในละครเรื่องHeatของLinda Chawai-Earl
ผลงานละครของเขาในApollo 13: Mission ControlและThe Little Shop of Horrors ได้พาเขาสู่การเดินทางอันทรงเกียรติในอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย และไอร์แลนด์ เขาได้รับรางวัลนักแสดงแห่งปีจากChapman Tripp Wellington TheatreจากผลงานของเขาในMidsummerโดยDavid Greig นอกจากนี้เขายังเป็นที่รู้จักอย่างมากจากบนโรงละครที่โอ๊คแลนด์ที่เขาเคยแสดงไว้มากมายกับThe Auckland Theatre Company รวมถึงเรื่องล่าสุดคือAmadeusและNell Gwynn เขาเป็นนักแสดงนำโอเปร่าของนิวซีแลนด์ในผลงานเรื่องThe Mikadoที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก และเมื่อเร็วๆนี้ได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์แนวหลังสิ้นโลกเรื่องMr BurnsของSilo TheatreกำกับโดยOliver Driver
นอกจากฐานะนักแสดงมืออาชีพ ไบรอนยังเป็นนักดนตรีและนักแต่งเพลงที่ประสบความสำเร็จโดยเขียนเพลงให้งานAuckland Annual Theatre Awards แสดงดนตรีในLittle Shop Of HorrorsของLive Live Cinema และผลิตดนตรีสำหรับธุรกิจให้Versatile Garage and BuildingsและMiTek NZ
Joe Witkowski (รับบทBradley Finch)
เมื่อต้นปีโจเพิ่งเสร็จสิ้นการถ่ายทำซีซั่นแรกของซีรีส์ใหม่เรื่องThe WildsของAmazon ก่อนหน้านั้นโจถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องShadow in the CloudของRoseanne Liangที่นำแสดงโดยChloë Grace Moretz โจเปิดตัวทางหน้าจอในผลงานการผลิตร่วมของนิวซีแลนด์/เดนมาร์กเรื่องStraight Forward เขาสำเร็จการศึกษาจากToi Whakaari: New Zealand Drama Schoolด้วยปริญญาด้านศิลปะการแสดง และยังได้ฝึกฝนกับMiranda Harcourt โค้ชการแสดงของNicole Kidman เขาทำงานอย่างต่อเนื่องกับผลงานของAuckland Theatre Company ได้แก่ Under The Mountain, Filthy Business, Six degrees of Separation และเมื่อเร็วๆนีัได้แสดงบนเวทีหลักของเรื่องRosencrantzและGuildenstern Are Dead
ทีมผู้สร้าง
Roseanne Liang – ผู้กำกับ/เขียนบทร่วม
โรสแอน เหลียง เป็นผู้กำกับและนักเขียนบทชาวจีนที่เกิดในนิวซีแลนด์ ภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับอัตชีวประวัติของเธอMy Wedding and Other Secretsเป็นภาพยนตร์ที่สร้างรายได้สูงสุดของนิวซีแลนด์ในปีที่ออกฉาย เธอยังสร้างผลงานที่ได้รับรางวัลทั้งรายการตลกทางทีวีและภาพยนตร์สั้น รวมถึงTake 3ที่ได้รับรางวัลจากเบอร์ลิน, เว็บซีรีย์เรื่องFlat3/Friday Night Bitesที่เป็นที่นิยม และผลงานแอ็คชั่นแหวกแนวสั้นๆเรื่องDo No HarmของSundance-SXSW ถูกกล่าวถึงโดยHollywood ReporterและThe Alice Initiativeว่าเป็นที่น่าจับตามอง โรสแอนเพิ่งเสร็จสิ้นการถ่ายทำภาพยนตร์แอ็คชั่นระทึกขวัญเรื่องแรกของอเมริกาเรื่องShadow in the CloudนำแสดงโดยChloë Grace MoretzและNick Robinson เธอเป็นตัวแทนโดยWMEและGrandview
Max Landis – เขียนบทร่วม
แมกซ์ แลนดิส เป็นนักเขียนและผู้สร้างภาพยนตร์ชาวอเมริกัน เขาเป็นนักเขียนและโปรดิวเซอร์มีชื่อเสียงจากการเขียนบทเรื่องChronicle (2012), American Ultra (2015), Victor Frankenstein (2015) และ Bright (2017) กำกับภาพยนตร์เรื่องMe Him Her (2015) ผลิตซีรีส์ของSyfy Channelเรื่องZero และสร้างซีรีส์Holistic Detective AgencyของDirk Gentlyให้BBC America
Kit Fraser – ผู้กำกับภาพ
คิท เฟรเซอร์ กำกับเลนส์เรื่องล่าสุดในSHADOW IN THE CLOUD ที่กำกับโดยRoseanne Liang เขาได้ร่วมงานกับBabak Anvariในเรื่องWOUNDS, UNDER THE SHADOW และภาพยนตร์สั้นเรื่องTWO & TWOซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบาฟต้า เฟรเซอร์ยังถ่ายเรื่องETERNAL BEAUTYของCraig Roberts และPOSSUMของMatthew Holness ปัจจุบันเขาทำงานร่วมกับCraig Robertsอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่องใหม่THE FANTASTIC FLITCROFTS
Tom Eagles – ตัดต่อ
ทอม อีเกิ้ลส์ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ รางวัลบาฟต้า และได้รับรางวัล American Cinema Editors Awardสาขาภาพยนตร์ตัดต่อย่อเยี่ยมจากผลงานเรื่อง“Jojo Rabbit”ของTaika Waititi ภาพยนตร์เรื่องนี้จัดจำหน่ายโดยFox Searchlightและนำแสดงโดย Taika, Sam Rockwell, Scarlett Johansson และ Rebel Wilson
ความสัมพันธ์อันยาวนานของทอมกับWaititi รวมไปถึงเรื่อง“Hunt for the Wilderpeople” ซึ่งเปิดตัวในเทศกาลซันแดนซ์และทำลายสถิติบ็อกซ์ออฟฟิศ โดยเป็นภาพยนตร์นิวซีแลนด์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลและได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ยอดเยี่ยมโดยนิตยสารEmpireประจำปี2016 เขาและWaititi ยังได้ร่วมมือกันในภาพยนตร์ล้อเลียนแวมไพร์ที่ได้รับการยกย่องอย่างมากเรื่อง“What We Do in the Shadows”ร่วมกับผู้กำกับร่วมJemaine Clement(Flight of Concords) ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้ฉายทางโทรทัศน์เป็นเรื่องเดียวแต่แบ่งเป็นสองเรื่อง ได้แก่ “What We Do in the Shadows”ของFX และ“Wellington Paranormal” ซึ่งทอมมีส่วนร่วมทั้งสองเรื่อง
ผลงานที่หลากหลายของทอมรวมไปถึงตัวอย่างรายการโทรทัศน์อาทิ“Spartacus”ของStarz และ“Ash vs. Evil Dead”ที่แฟนๆชื่นชอบและนำกลับมาทำใหม่ของSam Raimi นอกจากนี้เขายังตัดต่อโฆษณาหลายชิ้น(รวมถึงผู้ชนะจากเทศกาลเมืองคานส์และAxis) โดยผู้กำกับเช่นTaika Waititi, Michael GraceyและPatrick Hughes และผู้กำกับที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆอีกหลายคน
เครดิตผลงานอื่นๆของเขารวมไปถึงภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลจากผู้ชมในเทศกาลภาพยนตร์ทั่วโลกเช่น “The Inland Road”ของJackie van Beek(เบอร์ลิน),“The Breaker Upperers”(SXSW)ของNetflix และ“Do No Harm”(ซันแดนซ์)ของRoseanne Liang ตอนนี้ทอมกำลังทำงานให้เรื่อง“The Harder They Fall”ของJeymes SamuelสำหรับNetflix นำแสดงโดยIdris ElbaและJonathan Majors